กล่องแมทเทรสลักษณะไหนที่ถือว่าคุณภาพดี และควรนำมาใช้งาน

ประเภทงานชลประทานหรืองานที่ต้องใช้กำแพงป้องกันแผ่นดินไหวมักจะใช้วัสดุอย่างหนึ่งที่มีความแข็งแรงและทนทาน วัสดุประเภทนั้น คือ กล่องแมทเทรส ซึ่งกล่องประเภทนี้ตั้งชื่อตามลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มีความหนาคล้ายฟูกนอน แต่ก่อนจะนำกล่องประเภทนี้มาใช้ ต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่ามีคุณภาพเพียงพอจะนำมาใช้งานหรือไม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดนั่นเอง คุณภาพกล่องแมทเทรสที่ดีต้องมีลักษณะอย่างไร แน่นอนว่าความทนทานของกล่องแมทเทรสต้องนำมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งคุณภาพด้านนี้จะเกิดขึ้นได้เมื่อใช้ลวดตาข่ายคุณภาพสูง และจะถักเป็นรูปหกเหลี่ยมหุ้มสารพีวีซี เมื่อนำมาลวดตาข่ายเหล็กมาปรับรูปจนเป็นกล่องสี่เหลี่ยมได้แล้ว ต้องตรวจดูว่ามีความชำรุดเสียหายหรือขาดตรงบริเวณใดบ้าง เพื่อไม่ให้ก้อนหินที่อยู่ด้านในลวดหลุดออกมาได้ ส่วนหินที่อยู่ในกล่องแมทเทรสต้องเลือกให้มีขนาดเหมาะสม เพราะถ้าก้อนหินด้านในไม่แน่นหนาก็จะทำให้กล่องประเภทนี้หลวมและไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากไม่สามารถกันแรงกระแทกจากน้ำหรือแรงสั่นไหวจากแผ่นดินไหวได้ ดังนั้น การจัดวางหินในกล่องสี่เหลี่ยมจึงต้องวางให้ดีเพื่อให้ได้มาตรฐานคุณภาพงาน ประการสุดท้ายที่จะช่วยตรวจสอบคุณภาพของ กล่องแมทเทรส คือ ต้องผ่านมาตรฐาน มอก. ซึ่งต้องผ่านการทดสอบความต้านทานแรงดึงลวดที่ต้องไม่น้อยกว่า 38 กก. ต่อ ตรม. รวมถึงต้องใช้การเคลือบสังกะสีให้เป็นไปตามมาตรฐานเพื่อให้เกิดความทนทานต่อสภาพแวดล้อมทั้งดิน น้ำ ลม หากเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. ก็ถือได้ว่าเป็นกล่องที่ได้มาตรฐานและสามารถใช้งานได้ทนทานในทุกสภาพ งานใดที่เหมาะกับกล่องแมทเทรสคุณภาพดี อย่างที่ได้กล่าวถึงในข้างต้นว่ากล่องแมทเทรสเป็นกล่องที่ใช้กับงานชลประทาน เพราะไม่ใช่วัสดุที่มีแต่ความทนทานและสามารถต้านแรงน้ำได้เท่านั้น แต่ยังช่วยไม่ให้ตลิ่งหรือหน้าดินถูกกัดเซาะจนลุกลามและระงับความเสียหายไม่ได้ ซึ่งงานประเภทนี้มีทั้งเขื่อน ประตูระบายน้ำ ฝายถนน ไปจนถึงสะพาน ที่ต้องรับแรงกระแทกจากน้ำเป็นจำนวนมหาศาลและยังมีบางช่วงเวลาที่น้ำเชี่ยวและรุนแรงจนไม่อาจควบคุมได้ ซึ่งงานในลักษณะที่กล่าวถึงนี้ต้องใช้กล่องแมทเทรสเข้ามาช่วยให้งานเสร็จสมบูรณ์ หากเลือกใช้งานกล่องที่มีคุณภาพสูงและเป็นไปตามมาตรฐานก็จะทำให้สามารถทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อมหรือสภาพอากาศได้ดี ลักษณะของกล่องแมทเทรสที่มีคุณภาพเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจก่อนนำมาใช้งาน เพราะทุกงานที่ต้องใช้กล่องประเภทนี้ โดยเฉพาะงานด้านชลประทานต้องใช้วัสดุที่แข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อมสูง หากเลือกของที่มีคุณภาพก็จะทำให้ทุกงานมีคุณภาพตามไปด้วย
กล่องเกเบี้ยนมีประโยชน์ต่อการชลประทานอย่างไรบ้าง

การก่อสร้างด้านชลประทานที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องใช้วัสดุที่ดีมีคุณภาพ การเลือกใช้กล่องเกเบี้ยนที่เป็นวัสดุซึ่งเหมาะสมกับงานด้านชลประทานเป็นอย่างมากจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการใช้งานสูงสุด แล้วประโยชน์ต่าง ๆ ที่ว่ามานั้นมีอะไรบ้าง คงต้องอธิบายกันหลายข้อทีเดียว ประโยชน์ของกล่องเกเบี้ยนด้านการชลประทาน กล่องเกเบี้ยนที่มีคุณภาพเหมาะสมกับงานด้านชลประทาน การใช้กล่องเกเบี้ยนกับงานชลประทานต้องใช้ของดีมีคุณภาพ ซึ่งลวดตาข่ายที่ใช้ต้องแข็งแรง ทนทาน และเคลือบสารที่ทำให้ลวดไม่เกิดสนิม และลวดต้องสามารถปรับขนาดต่าง ๆ ได้ตามสภาพพื้นที่จริง นอกจากนี้การเลือกใช้วัสดุอย่างหินก็ควรเลือกขนาดให้เหมาะกับลวดและพื้นที่ที่ต้องนำไปจัดวาง เพราะแต่ละพื้นที่ต้องเลือกใช้หินด้านในให้เหมาะสมด้วยเช่นกัน เพื่อไม่ให้น้ำทะลักและกัดเซาะพื้นที่ด้านในได้ ดังนั้น การเลือกใช้วัสดุทั้งลวดและหินด้านในจึงมีความสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งก่อนการนำมาใช้งาน การใช้กล่องเกเบี้ยนด้านชลประทานนั้นถือเป็นเรื่องที่ดีและเป็นประโยชน์อย่างมาก เพราะไม่ว่าจะเป็นแง่ความทนทาน ด้านการปรับรูปแบบตามสภาพท้องที่ หรือแม้แต่การเปลี่ยนวัสดุด้านในก็มีความยืดหยุ่นสูง และสามารถทำให้งานด้านชลประทานเสร็จสมบูรณ์ได้ตามที่ต้องการ
Geotextile คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

ปัจจุบันทั่วโลกมีการใช้ geotextile มากถึง 1.4 พันล้านตารางเมตรต่อปี และแนวโน้มก็เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากตัวเลขสถิตินี้ geotextile จึงถือว่าเป็นวัสดุที่มีความสำคัญต่อวงการก่อสร้าง และวงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับคุณผู้อ่านที่ยังไม่รู้ว่า geotextile คืออะไร และสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง ทางแมทติพลายก็ขออาสาเป็นคนอธิบาย ให้คุณผู้อ่านสามารถเข้าใจได้แบบง่ายๆ Geotextile คืออะไร Geotextile คือแผ่นใยสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติน้ำซึมผ่านได้ และมีความทนทานสูง มักใช้ในงานด้านโยธา สิ่งแวดล้อม และการเกษตร วัสดุที่ใช้ทำ geotextile มักจะเป็น polypropylene (PP) หรือ polyester (PET) แต่บางครั้งก็อาจมีการใช้วัสดุอื่นแทน เช่น polyethylene และ polyamides หน้าที่ของ Geotextile มีหน้าที่สำคัญดังนี้ ด้วยคุณสมบัติที่น้ำสามารถซึมผ่านได้ geotextile จึงถูกใช้ในการกรอง เช่น การกรองดินไม่ให้ผ่านไปยังบริเวณอื่น ในขณะที่น้ำและความชื้นยังสามารถผ่านได้ Geotextile มักถูกใช้ในการแยกชั้นระหว่าง 2 สิ่ง เช่น ชั้นหินและชั้นดิน หรือชั้นดินที่มีลักษณะต่างกัน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผสมปะปนกันระหว่างชั้น Geotextile ยังถูกใช้ในการระบายน้ำหรือแก๊ส โดยมักถูกใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่น เช่น แกนระบายน้ำ (drainage core) และท่อเจาะรู (perforated pipe) หน้าที่อีกอย่างของ geotextile ก็คือการเสริมความแข็งแรงให้กับสิ่งอื่น เช่น ชั้นดิน ด้วยการเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนัก หรือช่วยดูดซับแรงเสียดทานในจุดที่เกิดการเสียดสี หน้าที่ข้อนี้ถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับงานก่อสร้างถนน Geotextile ยังถูกใช้ในการปกป้องวัสดุอื่น เช่น geomembrane และแผ่นคอนกรีต ซึ่งหน้าที่ข้อนี้ของ geotextile มักถูกนำไปใช้ในงานด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม และงานสร้างอุโมงค์ Geotextile มีกี่ชนิด เมื่อแบ่งตามกระบวนการผลิต geotextile จะแบ่งได้เป็น 4 ชนิด คือ Non-woven geotextile คือแผ่นใยสังเคราะห์ที่ผลิตโดยไม่ผ่านกระบวนการถักทอ แต่ใช้กระบวนการเชิงกล กระบวนการความร้อน กระบวนการเคมี หรือการผสมผสานระหว่างกระบวนการเหล่านี้แทน เนื่องจากไม่ได้ผ่านกระบวนการถักทอ เส้นใยของ non-woven geotextile จึงมีการเรียงตัวแบบอิสระ ซึ่งส่งผลให้ geotextile ชนิดนี้มีคุณสมบัติการกรอง การระบาย และการปกป้องวัตถุอื่นที่ดีกว่า woven geotextile เมื่อเทียบกับ geotextile ชนิดอื่น non-woven geotextile จะถือเป็น geotextile ชนิดที่นิยมใช้กันมากที่สุด (คำว่า woven geotextile ถ้าแปลตรงตัวจะแปลว่า “แผ่นใยสังเคราะห์ชนิดทอ” แต่ส่วนใหญ่จะนิยมเรียกกันว่า “แผ่นใยสังเคราะห์ชนิดถักทอ” มากกว่า) Woven geotextile คือแผ่นใยสังเคราะห์ที่ผลิตด้วยกระบวนการทอ ลักษณะของเส้นใยที่ได้จึงมีการเรียงตัวเป็นระเบียบ และมีโครงสร้างที่แน่น Geotextile ชนิดนี้จะมีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับใช้เสริมความแข็งแรงให้กับสิ่งต่างๆ เช่น ใช้เสริมความแข็งแรงให้กับชั้นดิน โดยจะใช้ได้ทั้งในงานสร้างถนน งานสร้างเขื่อน และงานก่อสร้างอื่นๆ Knitted geotextile คือแผ่นใยสังเคราะห์ที่ผลิตด้วยกระบวนการถัก ซึ่งส่งผลให้เนื้อของ geotextile ชนิดนี้มีรูพรุนขนาดใหญ่ และใช้ในการกรองได้ดีกว่า geotextile ชนิดอื่นๆ ความต่างของ geotextile ชนิดถัก (knitted) และชนิดทอ (woven) ก็คือชนิดถักจะใช้เส้นใยแค่แนวเดียว ถักเป็นบ่วงเกี่ยวกันไปเรื่อยๆ ส่วนชนิดทอจะใช้เส้นใย 2 แนว คือแนวตั้งและแนวนอน ทอให้ขัดสลับกันไป เมื่อเทียบกันแล้ว knitted geotextile นั้นไม่เป็นที่นิยมในการใช้เท่า geotextile ชนิด woven และ non-woven Composite geotextile คือแผ่นใยสังเคราะห์ที่ประกอบรวมกันหลายชั้น โดยแต่ละชั้นอาจเป็น geotextile ชนิดเดียวกันหรือไม่ก็ได้ (non-woven, woven, knitted) หรือในบางกรณี บางชั้นก็อาจเป็นวัสดุ geosynthetic ชนิดอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน Geotextile ชนิดนี้จะมีคุณสมบัติและการใช้ที่ค่อนข้างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับส่วนประกอบและกระบวนการผลิตที่ใช้ เมื่อเทียบกันแล้ว composite geotextile นั้นไม่เป็นที่นิยมในการใช้เท่า geotextile ชนิด woven และ non-woven Geotextile มักถูกใช้ในงานด้านโยธา สิ่งแวดล้อม และการเกษตร ตัวอย่างเช่น ด้านโยธาและสิ่งแวดล้อม ด้านการเกษตร บางกอกเกเบี้ยน
กล่องเกเบี้ยน กับประโยชน์มากมายที่คุณอาจไม่เคยรู้

ประโยชน์ของกล่องเกเบี้ยน: ความคุ้มค่าและอายุการใช้งานที่ยืนยาว ก่อนจะเข้าเรื่องว่ากล่องเกเบี้ยนสามารถให้ประโยชน์กับคุณได้อย่างไร เราจะพาคุณไปรู้จักกับกล่องเกเบี้ยนแบบคร่าวๆกันก่อน โดยกล่องเกเบี้ยนคือ กล่องลวดตาข่ายหกเหลี่ยม ที่นำไปชุบสังกะสีหรือหุ้ม pvc เพื่อเสริมความแข็งแรงและกันการกัดเซาะ ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ป้องกันการกัดเซาะตลิ่ง ป้องกันการพังทลายของดิน ป้องกันน้ำท่วม ป้องกันดินถล่ม และใช้สำหรับงานตกแต่งภูมิทัศน์ เป็นต้น โดยสำหรับ ประโยชน์ของกล่องเกเบี้ยนนั้น กล่องเกเบี้ยนเป็นวัสดุที่มีราคาไม่แพง อีกทั้งยังเป็นโครงสร้างที่มีความแข็งแรงและทนทานสูงมาก ทำให้กล่องเกเบี้ยนมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทนทานต่อการกัดกร่อนของดินและน้ำ โดยไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยครั้ง ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือบำรุงรักษาไปได้อีก นอกเหนือจากนี้ กล่องเกเบี้ยนยังสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินหรือประติมากรรมต่างๆได้ เนื่องจากเกเบี้ยนเป็นโครงสร้างที่มีความสวยงาม และดูทันสมัย ทำให้สามารถนำมาตกแต่งบ้านหรือที่อยู่อาศัยให้ดูสวยงามและมีมูลค่าเพิ่มขึ้น จึงเรียกได้ว่า กล่องเกเบี้ยนเป็นโครงสร้างที่มีความคุ้มค่าและมีอายุการใช้งานที่ยืนยาว ซึ่งสามารถมอบประโยชน์ทางการเงินให้กับคุณในระยะยาวได้ ทำไมเกเบี้ยนถึงแข็งแรงและทนทานกว่ากำแพงกันดินแบบดั้งเดิม จากที่เราได้กล่าวไปข้างต้น หลายคนอาจเกิดข้อสงสัยว่า ความแข็งแรงและทนทานของเกเบี้ยนนั้นมีมากกว่ากำแพงกันดินแบบดั้งเดิมอย่างไร แท้จริงแล้ว กล่องเกเบี้ยนมีความแข็งแรงและทนทานกว่ากำแพงกันดินแบบดั้งเดิม เนื่องจากมีโครงสร้างที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพในการรับน้ำหนักและแรงกดทับได้ดีกว่า โดยสามารถอธิบายแยกย่อยได้ดังนี้ กล่องเกเบี้ยนทำจากตาข่ายโลหะแบบหกเหลี่ยม โดยตาข่ายมีรูปแบบการถักทอที่แข็งแรงและทนทานต่อการรับน้ำหนักและแรงกดทับ ซึ่งช่วยให้กล่องเกเบี้ยนสามารถรองรับน้ำหนักของดินและวัสดุต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ หินหรือวัสดุอื่นๆที่บรรจุในกล่องเกเบี้ยน จะช่วยเสริมแรงให้โครงสร้างมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยหินหรือวัสดุเหล่านี้จะกระจายน้ำหนักของดินและวัสดุอื่นๆได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถช่วยลดแรงกดทับที่กระทำต่อโครงสร้างได้ กล่องเกเบี้ยนมีระบบระบายน้ำที่ดี ช่วยให้น้ำสามารถไหลผ่านกล่องได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังสามารถช่วยลดแรงกดทับที่กระทำต่อโครงสร้างจากการสะสมของน้ำได้ นอกจากนี้แล้ว กล่องเกเบี้ยนยังมีคุณสมบัติในการกันซึมที่ดี ซึ่งช่วยให้ดินและวัสดุต่างๆ ภายในกล่องไม่เปียกชื้น และช่วยลดการกัดกร่อนของโครงสร้างได้ดีกว่ากำแพงกันดินแบบดั้งเดิมอีกด้วย ประโยชน์ด้านงานตกแต่งประติมากรรมของกล่องเกเบี้ยน อย่างที่เราได้เกริ่นไปแล้วข้างต้น ว่านอกเหนือจากประโยชน์ทางด้านความแข็งแรงและทนทานแล้ว เกเบี้ยนยังมีประโยชน์ในด้านของการตกแต่งประติมากรรมที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับสิ่งก่อสร้างได้ โดยปัจจัยที่ทำให้เกเบี้ยนถูกนิยมนำมาใช้ในงานตกแต่งประติมากรรม เป็นเพราะว่ากล่องเกเบี้ยนเป็นโครงสร้างที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงและขนาดได้ตามต้องการ และสามารถปรับเปลี่ยนหินหรือวัสดุภายในตามความชอบได้ จึงทำให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานประติมากรรมได้หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งด้วยความที่กล่องเกเบี้ยนมีความแข็งแรงและทนทาน จึงช่วยให้ผลงานประติมากรรมไม่เสื่อมสภาพง่าย มีความคงทน และมีอายุการใช้งานยาวนานนั่นเอง โดยสรุปแล้ว กล่องเกเบี้ยนนั้นมีประโยชน์มากมาย ซึ่งสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนทาน และมีความยืดหยุ่นสูง จึงถือได้ว่าเป็นโครงสร้างที่มีความคุ้มค่าอย่างมาก โดยหากคุณสนใจเลือกใช้งานกล่องเกเบี้ยน ไม่ว่าจะเป็นด้วยจุดประสงค์เพื่อการป้องกัน หรือการตกแต่งประติมากรรมและที่อยู่อาศัยก็ตาม Bangkok Gabion มีกล่องเกเบี้ยนคุณภาพดีที่สุดให้คุณได้เลือกอย่างหลากหลาย พร้อมบริการการติดตั้งจากทีมผู้เชี่ยวชาญ เพราะฉะนั้นแล้ว โปรดไว้ใจเรา ให้เราดูแลคุณ
ทำความรู้จักกล่องแมทเทรส โครงสร้างที่เหมือนและแตกต่างกับเกเบี้ยน

กล่องแมทเทรส คืออะไร? กล่องแมทเทรส (Mattress) คือกล่องลวดตาข่ายเหล็ก ที่ถูกนำมาเคลือบด้วยสังกะสีชนิดแมทเทรส โดยลวดเหล็กที่ถูกเคลือบด้วยสังกะสีแล้ว จะถูกนำมาประกอบขึ้นเป็นรูปตาข่ายหกเหลี่ยม และโครงลวดตาข่ายหกเหลี่ยมนั้นจะถูกนำมายึดกันให้กลายเป็นรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งภายในกล่องจะถูกนำหินมาบรรจุไว้ โดยกล่องแมทเทรสมีประโยชน์มากมาย และสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายวัตถุประสงค์ กล่องแมทเทรสแตกต่างจากกล่องเกเบี้ยนอย่างไร? จากที่ได้ทำความรู้จักกับกล่องแมทเทรสข้างต้นแล้ว หลายท่านที่เคยได้ยินหรือพอรู้จักเกี่ยวกับ กล่องเกเบี้ยน มาบ้าง คงอาจจะเกิดข้อสงสัยว่า กล่องแมทเทรสและกล่องเกเบี้ยนแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากทั้งสองโครงสร้างนี้มีความคล้ายคลึงกันค่อนข้างมาก ทั้งรูปทรง หรือวัสดุที่ใช้บรรจุภายใน แต่แท้จริงแล้ว กล่องแมทเทรสและกล่องเกเบี้ยนนั้นแตกต่างกัน ซึ่งความแตกต่างของทั้งสองโครงสร้างนี้สามารถแยกย่อยเป็นปัจจัยต่างๆได้ดังนี้ ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างกล่องแมทเทรสและกล่องเกเบี้ยนนั้นคือรูปร่างและขนาด โดยกล่องแมทเทรสเป็นกล่องที่มีรูปร่างแบนคล้ายกับที่นอน ในขณะที่กล่องเกเบี้ยนมีรูปร่างเป็นกล่องหรือทรงกระบอก กล่าวคือ กล่องแมทเทรสมักมีความยาวมากกว่าความกว้าง ในขณะที่กล่องเกเบี้ยนมักมีความกว้างมากกว่าความยาว กล่องแมทเทรสจะมีขนาดช่องลวดตาข่ายที่เล็กกว่ากล่องเกเบี้ยน ซึ่งสิ่งนี้ช่วยให้หินหรือวัสดุอื่นๆยึดติดกับกล่องแมทเทรสได้ดีขึ้น สำหรับการใช้งาน กล่องแมทเทรสมักถูกใช้เพื่อป้องกันการกัดเซาะและเสริมแรงดิน โดยมักใช้ในพื้นที่ที่ไม่ต้องการสร้างโครงสร้างแนวตั้ง เช่น ริมแม่น้ำ ริมทะเล หรือแนวชายฝั่ง เป็นต้น ในทางกลับกัน กล่องเกเบี้ยนมักถูกใช้เพื่อกันดิน กันน้ำ หรือเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้าง โดยมักใช้ในพื้นที่ที่มีแรงดันสูง เช่น ฐานรากของสะพาน กำแพงบ้าน หรือโครงสร้างอื่นๆ ถึงแม้ว่ากล่องแมทเทรสและกล่องเกเบี้ยนจะเป็นโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพสำหรับงานวิศวกรรมโยธา และเป็นโครงสร้างที่ดูมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองมีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ เช่น รูปร่าง ขนาด และการใช้งาน นั่นเอง กล่องแมทเทรส: คุณสมบัติและจุดประสงค์การใช้งาน ถึงแม้ว่ากล่องแมทเทรสและกล่องเกเบี้ยนจะมีความแตกต่างกันในด้านของ รูปร่าง ขนาด และขนาดช่องลวดตาข่ายอยู่ประมาณหนึ่ง แต่ในเรื่องของคุณสมบัติและจุดประสงค์การใช้งานนั้นไม่ได้แตกต่างกันมากนัก โดยสำหรับคุณสมบัติของกล่องแมทเทรสนั้นเหมือนกับกล่องเกเบี้ยนเกือบทุกประการ ซึ่งก็คือมีความทนทานต่อแรงกดทับได้ดี ระบายน้ำได้ดี สามารถบรรจุวัสดุที่แข็งแรงต่างๆ เช่น หิน คอนกรีต หรือไม้ไว้ภายในได้ ติดตั้งง่าย และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนในเรื่องของจุดประสงค์การใช้งานนั้น กล่องแมทเทรสมักถูกใช้เพื่อป้องกันการกัดเซาะและเสริมแรงดินในพื้นที่ต่างๆเหมือนกับกล่องเกเบี้ยน แต่จุดที่แตกต่างนั่นก็คือ กล่องแมทเทรสมักถูกใช้ในพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันที่ไม่สูงมาก เพราะกล่องแมทเทรสมีลักษณะเป็นโครงสร้างแนวนอน และมีขนาดเล็กกว่า อีกทั้งมักถูกใช้เป็นโครงสร้างสำหรับการป้องกันชั่วคราว เพราะมีน้ำหนักเบากว่า ติดตั้งได้ง่ายและเร็วกว่า ตัวอย่างเช่น ติดตั้งเพื่อป้องกันน้ำท่วมชั่วคราว เป็นต้น โดยสรุปแล้ว กล่องแมทเทรส (Mattress) เป็นโครงสร้างที่คล้ายคลึงกับกล่องเกเบี้ยน เนื่องจากทั้งสองทำจากลวดตาข่ายหกเหลี่ยม ที่ข้างในกล่องบรรจุด้วยหินหรือวัสดุอื่นๆเหมือนกัน แต่กล่องแมทเทรสและกล่องเกเบี้ยนก็มีความแตกต่างที่สำคัญบางประการ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมได้